Blue Valentine Poster

Blue Valentine หนังโรแมนติกดราม่า เมื่อเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน ความรู้สึกเปลี่ยน

Blue Valentine หนังโรแมนติกดราม่าในตำนานอีกเรื่องที่ทำผมซึมไปเป็นวัน เป็นอีกเรื่องที่ผมชอบมาก ๆ ครับ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงจำความรู้สึกได้อยู่แม้ว่าจะดูไป 1 ครั้งถ้วนตามความสัตย์จริง แต่เป็นหนังรักที่เรียลมาก เมื่อคนเรามีรัก ทุกอย่างดูดีไปหมด เรามองเห็นแค่คน ๆ หนึ่งอยู่ในสายตา อยู่ในอนาคต อยู่ในทุก ๆ นาทีของชีวิตราวกับว่าเราจะไม่มองอย่างอย่างอื่นอีกแล้ว

Blue Valentine หนักรัก ดราม่า น้ำตาซึม

แต่เมื่อวันหนึ่งที่ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า “ความรัก” อาจถึงวันที่มันเริ่มเสื่อมสภาพลง การดูแลรักษาไว้อย่างไรคือคำถามที่แทบทุกคู่สงสัย วันหนึ่งที่เราอาจไม่รู้สึกเหมือนวันแรกที่เราตัดสินใจเลือกคน ๆ นี้อีกเเล้ว เราจะทำอย่างไรนะ เราจะยังเชื่อใจตัวเองได้แค่ไหน ภาพยนตร์เรื่องBlue Valentineจะให้คำตอบคุณเองผ่านหนังเรื่องนี้

ฉากน่ารัก ๆ ใน Blue Valentine
ฉากรักสุดหวาน Blue Valentine

Blue Valentine หนังดี เคมีส่ง ทำให้นักแสดงนำทั้งสองเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำประจำปี 2010

Blue Valentineเป็นหนังเก่าปี 2010 นำแสดงโดยไรอัน กอสลิ่ง และมิเชล วิลเลี่ยมส์ โดยไรอันรับบทเป็นดีน และมิเชล รับบทเป็นซินดี้ ซึ่งเรื่องนี้เองที่ทำให้ทั้งคู่ได้เข้าชิงรางวัล Golden Globe นำแสดงนำชายและหญิงยอดเยี่ยม เนื่องจากเคมีเข้ากั๊น เข้ากันจริง ๆ แสดงออกมาได้ดีมาก ๆ ครับ

ไรอัน และมิเชล จากหนังเรื่องBlue Valentine

การดำเนินเรื่องที่เปรียบเทียบฉากต่อฉากภาพกับเหตุการณ์ระหว่างอดีต-ปัจจุบัน ทำให้ผู้ชมเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง

ในเรื่องทั้งคู่เป็นคู่รักที่แต่งงานมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน หนังเล่าเรื่องแบบสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงว่าเมื่ออดีตแรกรักนั้นทุกอย่างหวานชื่นเพียงใด แล้วเมื่อเวลาผ่านไป การเดินทางผ่านช่วงวัยและมองเห็นโลกมากขึ้น ทำให้ความรักของชีวิตคู่จืดจางลงไปตามกาลเวลา จนกระทั่งวันหนึ่งทั้งคู่ตัดสินเปิดห้องในโรงแรมเพื่อปรับความเข้าใจและย้อนคิดถึงความรู้สึกวัยหนุ่มสาวนั้นอีกครั้ง ทำทุกอย่างเหมือนที่เคยทำด้วยกัน แสดงความรักเหมือนอย่างเคยด้วยกันอีกครั้ง เป็นการเปิดใจเพื่อลองปรับเข้าหากันเพื่อหาจุดสมดุลให้กับชีวิตคู่ที่มันกำลังจะพังลงไป…

ฉากแต่งงานBlue Valentine

หนังสลับให้เราเห็นชัด ๆ เปรียบเทียบเป็นฉาก ๆ เลยว่าเมื่อก่อนนั้นเคยรักกันยังไง และทำให้พระเอกนางเอกย้อนคิดว่าจะทำอย่างไรความรู้สึกจึงจะกลับไปเหมือนเช่นวันเก่าได้ สิ่งนี้แหละผมว่ากระทบใจคนดูมากครับ หนังไม่ได้เฉลยเหตุและผลว่าทำไมความรักถึงเปลี่ยนไป แต่หนังแค่แสดงภาพความแตกต่างของช่วงเวลา ช่วงวัยที่พบรัก เปรียบกับปัจจุบันที่ต้องประคองความรัก ด้วยภาระ หน้าที่ ทัศนคติที่เปลี่ยนไป ความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาวมันจึงจืดจางลง

ฉากปรับความเข้าใจกัน ดีน กับซินดี้

“เพราะวันหนึ่งคนเราต้องเปลี่ยนไป แต่จะทำอย่างไรให้ความรักไม่เปลี่ยนตาม…?” คือโจทย์ที่ “Blue Valentine” ทิ้งให้คุณคิดตาม

จริง ๆ ผมว่าก็ไม่แปลกที่ความรักจะจืดจางมากมายจนกระทั่งหมดลงได้ แม้ว่าวันหนึ่งเราจะเคยรู้สึกรักจนขาดคน ๆ หนึ่งไปจากชีวิตเราไม่ได้ก็ตาม ก็เพราะกฏของความไม่แน่นอนมีอยู่จริงครับ คนเราเปลี่ยนนิสัย และทัศนคติตลอดอยู่แล้ว จะแปลกอะไรกับคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวัน และวันหนึ่งเกิดตั้งคำถามขึ้นมาว่า เรายังรักคน ๆ นี้อยู่หรือเปล่า และคนนี้ยังเป็นคำตอบที่ทำให้เราอยากอยู่ด้วยกันอยู่หรือเปล่า

best quote Blue Valentine

Blue Valentine : หนังรักที่ไม่ได้มีแค่เรื่องรัก สะท้อนปัญหาคู่รักและครอบครัวที่เรียลสุด ๆ

เรื่องนี้เรียลกระทั่งสีของภาพ สังเกตฟีลของภาพได้ชัดเลย ผู้กำกับละเอียดอ่อนมาก ไทม์ไลน์ตอนหนุ่มสาวที่ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน มีโมเม้นท์หวาน ๆ อิ่มอุ่นหัวใจ ภาพจะเป็นสีสด ๆ ฟุ้ง ๆ ทำให้อารมณ์คนดูล่องลอยเคลิบเคลิ้มตามไปด้วย แต่เมื่อสลับภาพมาเป็นเหตุการณ์ในปัจจุบันที่เริ่มมีปัญหาครอบครัว ทะเลาะกันบ่อย ความเห็นไม่ตรงกัน ทัศนคติแตกต่างกัน สีภาพจะทึม ๆ มัว ๆ หม่นหมองลงไปในทันใด ทั้งยังให้ความสมจริงกับฉากและบทสนทนาที่บางทีก็ปล่อยโฟล์วตามอารมณ์นักแสดงแบบเงียบเชียบ บีบหัวใจคนดูเอามาก ๆ

ภาพสวย ๆ สีฟิล์มดีมาก หนังบลู วาเลนไทน์
ฉากเรียกน้ำตา จาก Blue Valentine

รีวิวBlue Valentine สุข เศร้า เหงา บีบหัวใจ คนอกหักมีร้อง!

รีวิวBlue Valentine-หลังดูจบ ผมให้ 8.5/10 คุณจะรู้สึกเหมือนถูกบีบหัวใจตามจังหวะไปกับบทของหนัง และอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ถ้าเป็นเราล่ะ? เราจะยังเชื่อมั่นหัวใจตัวเอง จะอยู่ทน หรือทนอยู่… ลองตอบคำถามนั้นให้ดีครับ ฟังเสียงหัวใจดี ๆ ผมว่าจากเรื่องนี้ทั้งคู่ตอบตัวเองได้นะในตอนจบ เพียงแต่ความรักไม่ได้มีปัจจัยหลักแค่เรื่องของความรู้สึกรักเท่านั้น แต่มันขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวด้วย

หนังทิ้งเครื่องหมายคำถามไว้ให้คนดูตอนท้าย แต่ไม่ใช่เครื่องหมายคำถามแบบจบดื้อ ๆ แต่เป็นเครื่องหมายคำถามที่ให้คนดูคิดเอาเอง สมจริง เข้าใจได้ ดูจบแล้วเจ็บแปลบที่อกสุด ๆ ครับ คอ หนังโรแมนติกดราม่า ไม่ควรพลาดเลย แต่ขอเตือนว่าอย่าดูตอนที่กำลังรู้สึกเศร้าอยู่แล้วนะครับ เพราะอาจจะทำให้ดิ่งจนซึมไปหลายวัน คนอกหักมีร้อง! ไปติดตามเอาใจช่วยความรักของทั้งคู่ได้ใน Blue Valentineครับ

Michelle Williams-Wallpaper
End of Blue Valentine Movie 2010