No time to die

No time to die ภาคสุดท้ายของสายลับ 007 ที่หลาย ๆ คนไม่ควรพลาดเด็ดขาด !

No time to die ภาพยนต์ภาคล่าสุดของ 007 ที่กลับมาอีกครั้ง เป็นเรื่องที่สายลับชาวอังกฤษได้ลาออกจากการเป็นสายลับอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อใช้ชีวิตปกติอย่างคนธรรมดา แต่เพื่อนซี้อย่างฟิลิกซ์ ไลเทอร์ จากซีไอเอ ได้มาขอ
ร้องให้ 007 ช่วยภารกิจเป็นครั้งสุดท้าย เมื่องานเข้าบอนด์ปฏิเสธไม่ได้ ครั้งนี้ เจมส์ บอนด์ (แดเนียล เคร็ก) รับบทฆยัคร้าย 007 ที่ถนัดอีกตามเคย และดูเหมือนว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายเสียด้วย โดยมี รามี่ มาเรค มารับบทตัวร้ายในเรื่องได้อย่างสมเหตุสมผล

No time to die

ภาพยนต์ No Time to Die ภาคต่อของ สายลับ 007 และเป็นภาคสุดท้าย บอนด์

เจมส์ บอนด์ (แดเนียล เคร็ก) ได้ลาออกจากองค์กรลับ และได้มาใข้ชีวิตปกติอย่างสงบอยู่ในจาไมก้า แต่ช่วงเวลาสงบของเขาอยู่ได้ไม่นาน เพราะได้ถูกขอร้องแกมบังคับจากเพื่อนเก่าของเขา เฟลิกซ์ ไดเตอร์ (เจฟฟรียื ไรท์) จาก CIA ขอร้องให้มาช่วยในภารกิจที่ต้องช่วยเหลือทีมนักวิจัยที่ถูกลักพาตัวไป และเป็นเรื่องใหญ่เกินความคาดหมาย บอนด์จำเป็นต้องรับงานเพื่อไปช่วยและสืบให้ได้ว่าวายร้ายมีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอะไรที่เป็นทั้งอาวุธและความอันตรายสุด ๆ

No time to die

No Time to Dieต้องถือว่าเป็นภาคสุดท้ายของ สายลับ 007 ที่แดเนียล เคร็ก จะมารับบทเป็นสายลับสุดหล่อได้นำตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย มาสู่สายตาสื่อมวลชนบ้างแล้ว แต่ยังไม่จุใจ รวมทั้งเรื่องย่อของภาพยนตร์ก็ได้ถูกปล่อยตัวออกมา
ด้วยเช่นกัน เป็นการประกาศอย่างเป็นทางการว่า สายลับเจมส์ บอนด์ 007 พร้อมแล้วที่จะออกปฏิบัติการ แล้วก็จะไปใช้ชีวิตอย่างสงบตามที่ได้ตั้งใจไว้ที่จาไมก้า แต่ก็เสียเพื่อนไม่ได้จึงต้องกลับมาสวมบทสายลับอีกครั้งหนึ่ง เพื่อปฏิบัติงานอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นเพื่อรับมือกับวายร้ายสุดไฮเทค

No time to die

ผู้กำกับ Cary Joji Fukunaga ต้องใช้ถึง 4 คนเมื่อให้ได้คุณภาพของหนังตามที่ได้วางพล็อตเรื่องไว้ อย่างที่บอกแล้วว่าจะเป็นภาคสุดท้ายของบอนด์แล้ว จึงทำให้ แดเนียล เคร็กที่บ่นว่าเหนื่อยสมใจเสยทีหลังจากได้รับบทนี้มาแล้วเป็นเวลาหลาบปี และมากกว่าใคร ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของ สายลับ 007 เรื่องนี้จะเข้าฉายเดือน เมษายนหน้า ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

รีวิวหนังที่ไม่เหมือนใคร เว็บไซต์ รีวิวภาพยนตร์ หนังไทย ซีรี่ย์ทั่วโลกแบบตรงชัดจัดเต็มทุกประเด็น