รีวิว It’s Okay to Not Be Okay ซีรี่ย์เรื่องใหม่ของ “คิมซูฮยอน” ลงจอแล้วทาง Netflix
2 วันก่อนผมได้มีโอกาสเปิดดูซีรี่ย์มาแรงทาง Netflix เลยไม่พลาดขอ รีวิว It’s Okay to Not Be Okay กันสักหน่อย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งลงจอไปได้ 4 ตอนเอง เอาเป็นว่าผมถือโอกาสรีวิวแบบ ‘พรีวิว’ ก่อนดูดีกว่า สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าควรดูหรือไม่ ขอบอกเลยว่าค่อย ๆ ดูไปนะครับ เพราะซีรี่ย์เรื่องนี้มีหลากหลายมิติ แง่มุมที่น่าสนใจเชียวล่ะ ผลงานการแสดงของพระเอกสุดหล่อ คิมซูฮยอน ที่ขึ้นแท่นพระเอกค่าตัวแพงติดท็อปชาร์ตของเกาหลี งานนี้ขอบอกว่าหากคิมซูฮยอนรับเล่นเรื่องนี้ ต้องมีอะไรดีแน่นอนล่ะ!
รีวิว It’s Okay to Not Be Okay : ซีรีย์ครบรส ทั้งโรแมนติก ดราม่า แฟนตาซี จิตวิทยา และสืบสวนสอบสวน ครบจบในเรื่องเดียว
ถ้าคุณอยากรู้ว่ามีจริงหรือสำหรับซีรี่ย์ครบรสเหมือนยำรวมมิตรขนาดนี้ ต้องขอบอกเลยว่าซีรี่ย์เรื่องนี้ทำได้จริง เพราะ 2 ตอนถ้วนที่เปิดเรื่องมาก็เล่าถึงเรื่องที่เกี่ยวกับปมในอดีตของแต่ละตัวละคร สะท้อนให้เห็นว่าปมเหล่านั้นมีผลกระทบต่อชีวิตตัวละครอย่างมาก และทุกตัวละครมีผลเชื่อมโยงกันทั้งในด้านเหตุการณ์ และความคิดจิตใจ จะบอกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างใช้สัญลักษณ์เยอะเลยล่ะ เพื่อค่อย ๆ ฉายปมปริศนาทีละจุด ๆ ตั้งแต่เริ่มเรื่อง
2 ตอนแรกนี้ผู้ชมอาจจะหลอน ๆ หน่อยนะครับ อย่างที่บอกคือการดำเนินเรื่องอิงกับหนังสือนิทานที่นางเอกเป็นผู้แต่ง หลายเหตุการณ์มีไทม์ไลน์ที่ไม่ชัดเจนว่าเป็นฝันร้าย หรือเป็นเรื่องจริง สิ่งนี้แหละที่ทำให้ผู้ชมอยากติดตามต่อว่าผู้กำกับกำลังจะบอกอะไรกับเรากันแน่ มีครบรสทั้งโรแมนติก ดราม่าน้ำตาซึม แฟนตาซี จิตวิทยา เเละปมฆาตกรรมปริศนาที่คาดว่าจะเฉลยพีค ๆ ในตอนกลาง-ท้ายเรื่องครับ
It’s Okay to Not Be Okay ขอชมในด้านบทบาทการแสดงของทีมนักแสดงยอดเยี่ยม หนังชีวิตเรียล ๆ อีกเรื่องถึงแม้จะย้อนแย้งกับแนวแฟนตาซีที่ผู้กำกับพยายามจะอัดเข้ามา
แม้ว่าแนวแฟนตาซีประหลาด ๆ ที่ผู้กำกับพยายามจะอัดเข้ามาแทรกเรื่องราวดราม่าของตัวละครตั้งแต่ต้นเรื่องจะเว่อร์และเหนือจริงไปหน่อย แต่ในด้านของการแสดงออกทางสีหน้า อารมณ์ และการกระทำของตัวละครสมเหตุสมผลดี อันนี้พูดในฐานะของผู้ชมที่ดูจบไป 2 ตอนนะครับ ชื่นชมทีมนักแสดงครับ ทำได้ดีมาก แสดงออกในบทบาทที่ได้รับดีมาก ๆ เล่นดีจนเชื่อเลย โดยเฉพาะพี่ชายของพระเอกที่ทำเอาผมน้ำตาคลอในหลาย ๆ ฉาก ส่วนพระเอกเองก็แววตาโศก เป็นผู้ชายที่ดูเหนื่อย คิดหนักกับชีวิตตลอดเวลา และนางเอกเองก็แสดงออกอย่าแข็งกร้าว เอาแต่ใจ ชอบความรุนแรง ด้วยหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง ทำให้เรารู้สึกได้ว่าโอเค ถึงการดำเนินเรื่องจะยำรวมมาหลากหลายมุมเหลือเกิน แต่ก็ค่อนข้างดำเนินมาดีอยู่ ยังคงน่าติดตามไม่จืดชืด
เรื่องย่อของ It’s Okay to Not Be Okay เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน!
รู้สึกชอบชื่อภาษาไทยของซีรี่ย์มาก ๆ ครับ พยายามทำความเข้าใจอยู่ว่าทำไมถึงถูกตั้งชื่อให้แบบนี้ แต่ดู ๆ ไปก็ถึงกับ อ๋อ! เมื่อทุกตัวละครกำลังพยายามดำเนินชีวิตในแบบตนเอง ดำเนินตามทางของโชคชะตาที่ขีดไว้ อย่างตัวพระเอกและพี่ชายค่อนข้างน่าสงสารครับ
เรื่องราวกล่าวถึงพี่น้องคู่หนึ่งที่พยายามประคับประคองชีวิตมาด้วยกันสองคนตั้งแต่เด็ก เพราะแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม อันนี้ซีรี่ย์ยังไม่สรุป แต่พระเอกกับพี่ต้องหนีออกจากเมืองนั้นเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับพี่ชายที่เป็นคนพัฒนาการช้า พระเอกเลยต้องรับหน้าที่ดูแลพี่ตั้งแต่ยังเด็ก จนเติบโตมาเป็นนักบำบัดจิตในโรงพยาบาลจิตเวช
ส่วนนางเอกก็มีปมตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กที่ไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม ชอบทำลายสิ่งของรอบตัว ภาวะทางอารมณ์ไม่แน่นอน แข็งกร้าว และมักจะฝันร้ายอยู่เสมอ ครอบครัวเป็นคนมั่งคั่ง อาศัยอยู่ในคฤหาสน์สุดหรูที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าใหญ่ เมื่อโตขึ้นทางด้านนางเอกเองก็กลายเป็นนักเขียนการ์ตูนเยาวชนที่มีชื่อเสียง เรื่องที่นางเอกเขียนก็จะออกแนวดาร์ค ๆ หน่อย
ส่วนด้านครอบครัวก็เหมือนว่าพ่อแม่จะแยกทางกันตั้งแต่นางเอกยังเด็ก แม่นางเอกเองก็เป็นนักเขียนวรรณกรรมดีเด่นสายฆาตกรรมเช่นกัน และตายอย่างปริศนา เรื่องยังไม่เฉลยในส่วนนี้ครับ ส่วนพ่อพระเอกก็ถูกเข้ารับการบำบัดจิตที่โรงพยาบาลจิตเวศน์และกลายเป็นคนฟั่นเฟือน จึงทำให้เห็นว่าแต่ละตัวละครในเรื่องล้วนแหว่งวิ่นไม่สมบูรณ์ เกิดจากปมบางอย่างในอดีตที่ส่งผลต่อปัจจุบันอย่างมาก แต่ละเรื่องย่อมมีผลต่อจิตใจ ซีรี่ย์เรื่องนี้จึงเหมาะแก่นักจิตวิทยาด้วยเช่นกันครับ หลาย ๆ เรื่องอยากให้ดูเลย ค่อนข้างมีประโยชน์จริง
รีวิว ตัวละครของ It’s Okay to Not Be Okay เชื่อมโยงกันตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
อย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้นว่านอกจากซีรี่ย์จะเป็นแนวแฟนตาซี โรแมนติก ดราม่า และจิตวิทยาแล้ว ยังมีด้านของปมสืบสวนสอบสวนให้เราติดตามอีกด้วย และผมคาดเดาว่าเรื่องราวของพระเอกและนางเอกต้องเกี่ยวพันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะ 2 ตอนแรกนี้หนังเริ่มทำให้เห็นแล้วว่าตัวละครเคยรู้จักกันมาก่อนเมื่อในอดีต เพราะเมืองที่พระเอกหนีออกไป และเมืองที่นางเอกเกิดเป็นเมืองเดียวกัน พี่ชายของพระเอกก็อาจจะไม่ได้ป่วยเป็นคนพัฒนาการไม่ปกติตั้งแต่แรก อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่กระทบสภาพจิตใจจนกลายเป็นแบบนี้ก็ได้ เป็นแค่การรีวิวคาดเดาเบื้องต้นนะครับ อยากให้ดูเอาเอง ถึงแม้ตัวซีรี่ย์จะเล่าไปอย่างช้า ๆ เนิบ ๆ แต่ค่อนข้างเริ่มมีจุดน่าสนใจให้คิดและติดตามครับ
อีกอย่างที่อยากฝากเป็นพิเศษคือ ใครที่อยากเข้าใจคนที่มีอาการทางจิต หรือความผิดปกติทางสมอง อาทิเช่น พัฒนาการช้า ความจำเสื่อม ต้องดูเรื่องนี้นะครับ จะทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นเลยทีเดียว เอาเป็นว่า ให้คะแนนเบื้องต้น 7/10 ไปก่อนแล้วกัน สนุกปานกลาง แต่ครบรสชาติดี มีอะไรให้คิดตามได้เยอะเลยล่ะ ชอบสุด ๆ คงจะเป็นการแสดงออกของตัวละครที่ขมุกขมัวดี สุขก็ไม่เต็ม เศร้าก็ไม่เต็ม คอสตูมสวย สีภาพสวยมาก ๆ ส่วนใครที่รอดูหน้าตาหล่อขั้นเทพบุตรที่มาคู่กับซิกซ์แพ็กส์งาม ๆ ของพระเอก คิมซูฮยอน ล่ะก็ ขอบอกเลยว่า สมหวังแน่นอนครับ !!!
ตัวอย่างซีรี่ย์ It’s Okay to Not Be Okay :
ติดตามรีวิวหนังเก่า-ใหม่ ซีรี่ย์ไทย ซีรีย์ต่างประเทศเรื่องอื่น ๆ ได้อีกที่นี่ เว็บรีวิวหนัง รีวิวซีรีย์แบบไม่เหมือนใคร