ดูการ์ตูน Toy story 1-4 ย้อนวัยเด็กกับโลกแห่งของเล่นเสมือนจริง
หลายๆ คนอาจจะลืมเรื่องราวแต่ละภาคของการ์ตูน Toy story ไปบ้าง Toy story เป็นภาพยนตร์การ์ตูนแนวคอมเมดี้และผจญภัยของเหล่าของเล่นที่มีชีวิตจริงในโลกของพวกเขา โดยเป็นอะนิเมชั่นเรื่องแรกที่สร้างโดยใช้ Computer ทั้งหมด ดำเนินการสร้างโดย Pixar และจดลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายโดย Walt Disney เจ้าเก่าเจ้าเดิมแห่งโลกการ์ตูนนั่นเองครับ และยังถือเป็นผลงานการกำกับชิ้นแรก ชิ้นโบว์แดงของจอห์น อลัน แลสซีเตอร์ สาวกอะนิเมชั่นต้องรู้จักกับเจ้าพ่อขานี้แน่นอนเลยทีเดียว!
ภาคแรกของการ์ตูน Toy story เข้าฉายในโรงภาพยนตร์อย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 1995 ได้รับรายได้มหาศาลในสัปดาห์เดียว บวกกับทั้งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากทั้งจากคนดูและนักวิจารณ์หนังมือฉมังทั่วโลก เพราะผลงานหนังทำออกมาได้ดีมากครับทั้งทางเนื้อหา ภาพประกอบ ดนตรีประกอบ เพลงประกอบและการให้เสียงพากย์ตัวการ์ตูนทุกคาแร็คเตอร์ หลังจากนั้นภาค 2 ก็ตามมาติดๆ ครับในปี 1999 แต่ภาค 3 และ 4 ค่อนข้างห่างกันมากทีเดียว เนื้อเรื่องของตัวละครจึงมีความเติบโต เปลี่ยนมิติให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นแตกต่างจาก 2 ภาคแรก
เดี๋ยวจะลืมกันซะหมดว่าการ์ตูน Toy story แต่ละภาคเป็นมายังไง มีคาแร็คเตอร์หลักๆ อะไรบ้าง วันนี้แอดจะมาสรุปเรื่องราวย่อๆ ให้ฟังละกันครับ เริ่มตั้งแต่ภาคแรก Toy story (1995) ก่อนเลย
การ์ตูน Toy story เป็นเรื่องราวของโลกของเล่นที่มีชีวิตจริง ขยับได้ พูดได้ สื่อสารกันได้เหมือนมนุษย์ แต่จำเป็นต้องแกล้งอยู่เฉยๆ ตอนอยู่กับมนุษย์ ของเล่นทุกตัวจะมีคาแร็คเตอร์เป็นของตัวเอง มีบทบาทที่ทำให้คนดูจดจำ และเจ้าพวกของเล่นพวกนี้ล่ะครับคือตัวดำเนินเรื่องราวทั้งหมดต่อจากนี้ไป…
ต่อมาในด้านของตัวละคร เรามารู้จักตัวละครคร่าวๆ ของการ์ตูน Toy story กันบ้างดีกว่า ตัวแรกเลยที่ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะเขาคือเจ้าของของเล่นทั้งหมด… แอนดี้ เด็กผู้ชายที่รักการเล่นของเล่นเป็นชีวิตจิตใจ ของเล่นของแอนดี้มีหลากหลายตัวทีเดียว เช่น วู๊ดดี้ ตุ๊กตาคาวบอยตัวที่แอนดี้เล่นบ่อยที่สุด เป็นตัวเอกของเรื่อง, โปเตโต้เฮด ตัวฮา ตัวโจ๊กที่ชอบสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนๆ, สลิงกี้ด็อก ของเล่นสุนัขติดสปริง ผู้ที่มีความสามารถอย่างโดดเด่นในด้านกายกรรม ในเรื่องนี้สลิงกี้ด็อกจะต้องออกโรงทำโน่นนี่หลายอย่างหน่อย เพราะมีความสามารถในตัวสูง มีประโยชน์, เร็กซ์ ไดโนเสาร์สีเขียวเข้ม เจ้าไดโนเสาร์ขี้กังวลว่าจะเป็นไดโนเสาร์ที่ไม่น่ากลัวมากพอ, แฮม หมูจอมกวน แต่ก็ฉลาดรอบรู้, ซาจจ์ เหล่าทหารสีเขียว, โบปี๊พ ตุ๊กตาเซรามิกแสนสวย และกรีนแมน เจ้าเอเลี่ยนสามตาตัวเขียว คาแร็คเตอร์นี้ไม่ค่อยมีบทเท่าไหร่ครับ แต่น่ารักมากตอนอยู่รวมกัน และผมเชื่อว่าหลายๆ คนชอบมันแน่ๆ
ส่วนเรื่องราวของการ์ตูน Toy story ภาคแรกก็จะกล่าวถึงการแข่งขันกันเป็นของเล่นตัวโปรดของแอนดี้ ของเล่นแต่ละตัวแข่งกันว่าใครจะเป็นตัวที่แอนดี้รักที่สุดกันแน่ และวู๊ดดี้ก็ได้ขึ้นแท่นมือวางอันดับ 1 ครับ จนวันหนึ่งแอนดี้ได้ของเล่นรุ่นใหม่ล่าสุดเป็นหุ่นยนต์ในชุดอวกาศชื่อ บัซไรท์เยียร์ เจ้าบัซนิสัยจอมอวดครับ มาไม่เท่าไหร่ก็โอ้อวดว่าตัวเองเป็นนักบินอวกาศจริงๆ สามารถบินได้ และยิงแสงเลเซอร์ได้ บัซมีความเชื่อแน่วแน่ว่าตัวเองเก่ง มีความสามารถมากกว่าของเล่นตัวอื่น ของเล่นตัวอื่นก็เกิดอิจฉากลัวว่าจะมาแย่งความรักที่แอนดี้มีให้พวกเขาไป วู๊ดดี้เกิดความอิจฉามากที่สุดกว่าใครเพื่อน เขาตัดสินใจไล่บัซออกไปจนตกจากหน้าต่าง และทันใดนั้นเองบัซจึงรู้ตัวว่าแท้จริงแล้วตัวเองบินไม่ได้ ส่วนวู๊ดดี้เองก็โดนเหล่าของเล่นเนรเทศออกไปเช่นกันเพราะถูกมองเป็นตัวร้ายตัวอันตราย ต่อมาก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าวู๊ดดี้และบัซต้องมาเจอกับเพื่อนบ้านของแอนดี้รุ่นเดียวกันที่ชอบเล่นของเล่นเหมือนกันนั่นก็คือ ซิท แต่ซิทจะแตกต่างไปก็คือ เขาชอบแยกชิ้นส่วนของเล่น และเล่นของเล่นแรงๆ ของเล่นแต่ละชิ้นของเขาจึงไม่สมประกอบซักชิ้นเลย วู๊ดดี้กับบัซเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ไม่ต้องการอยู่แบบไม่มีความสุข จึงร่วมมือกันหนีออกมาจากบ้านซิท และกลับไปสู่กล่องของเล่นของแอนดี้ทันเวลาก่อนย้ายบ้าน
ส่วนภาคต่อไป แน่นอนว่าทั้งวู๊ดดี้และบัซจากคู่อริได้กลายมาเป็นเพื่อนรักที่ปรับความเข้าใจกันแล้ว ภาค 2 ของการ์ตูน Toy story ห่างกัน 4 ปี จะมีตัวละครเพิ่มมานิดหน่อยที่เป็นตัวหลักๆ ก็คือนักสะสมของเล่นที่มาบ้านแอนดี้ตอนแอนดี้ไม่อยู่และแอบขโมยวู๊ดดี้ซึ่งตอนนั้นแขนหักไปเพื่อจะนำไปซ่อมและรวมเป็นคอลเล็คชั่นของตนเอง วู๊ดดี้ได้เจอกับเพื่อนของเล่นมากมายในบ้านหลังนั้น และได้พบความจริงของตัวเองว่าเขาเป็นตัวที่ขาดไปจากคอลเล็กชั่นของเล่น Set ที่ผลิตออกมาเพร้อมกัน เหมือนได้เจอครอบครัวตัวจริง ฝ่ายบัซและผองเพื่อนก็ไม่อยู่เฉย ออกตามหาวู๊ดดี้และจะมาช่วยกลับบ้าน แต่วู๊ดดี้เกิดลังเลใจไม่อยากกลับเพราะคิดว่าที่นี่อาจจะเป็นที่ของเขาจริงๆ ก็ได้ แต่บัซทำให้วู๊ดดี้คิดได้ด้วยคำพูดที่ว่า ของเล่นจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อได้ถูกเล่น ไม่ใช่วางโชว์เป็นของสะสม เขาจึงตัดสินใจจะกลับไปอยู่กับแอนดี้อีกครั้ง แต่ก็ต้องพบเจออุปสรรค เพราะนักสะสมของเล่นมาขัดขวางไม่ให้เขาไป วู๊ดดี้และผองเพื่อนก็ใช้ความเฉลียวฉลาด สามัคคีเอาตัวรอดกลับไปจนได้ในตอนจบพร้อมกับมีเจ้าคอลเล็กชั่นของเล่นครอบครัวตัวจริงของเขากลับไปด้วยกัน
ส่วนการ์ตูน Toy story ภาค 3 (2010) จะห่างกับภาค 1-2 พอสมควรเลยครับ เรื่องราวจะเข้มข้นขึ้น เน้นด้านอารมณ์ความรู้สึก และของเล่นต้องเจอสถานการณ์คับขัน และแก้ปัญหาที่ใหญ่ขึ้น แอนดี้เจ้าของของเล่นก็ถูกปรับบทให้เติบโตขึ้นเป็นหนุ่มเข้ามหาลัยตามไทม์ไลน์ของการ์ตูนที่ห่างจากภาคแรกมาเยอะนั่นแหละครับ สมจริงมาก ภาคนี้อาจต้องมีเสียน้ำตาในตอนจบ แต่มั่นใจได้เลยว่าแฮปปี้ครับ เป็นน้ำตาที่ไม่ได้มาจากความเสียใจแต่ผู้ชมจะตื้นตันไปกับตัวละครมากกว่า ส่วนการ์ตูน Toy story ภาค 4 เข้าฉายในปี 2019 ขอไม่สปอยล์แม้แต่เรื่องย่อนะครับ ย้อนความมาเยอะขนาดนี้ ใช่เลย…ต้องดูให้ครบทุกภาค เป็นการ์ตูนในตำนานของแอดที่นั่งดูตั้งแต่สมัยยังเป็นกล่องวิดีโอสีดำเหลี่ยมๆ เลยครับ เก่ามาก แต่ก็รักมาก เหมือนเราเติบโตไปพร้อมๆ กับตัวละครแอนดี้ด้วยเช่นกัน และเรื่องนี้ก็ให้ข้อคิดดีๆ เยอะด้วย ชวนย้อนวัยเด็กกับโลกแห่งของเล่นด้วยการ์ตูน Toy story ชวนเด็กๆ ลูกหลานมาดูก็ดีครับ ดูยาวมาราธอนกันไปเลย 4 ภาค การันตีความสนุกในทุกภาค เพลินจนไม่อยากลุกไปไหนเลยจริงๆ ครับ พบกับรีวิวหนังใหม่ๆ ได้อีกที่นี่ครับ