เว็บรีวิวหนัง แบบไม่เหมือนใคร รีวิวหนังไทย รีวิวหนังต่างประเทศ รีวิวหนังNetflix

เว็บรีวิวหนัง dbalmaxpro เป็นเว็บไซต์รีวิวหนังทุกประเภท แบบไม่เหมือนใครที่ไหนแน่นอน ไม่มีสปอยหนัง คุณสามารถเข้ามาดูรีวิวได้แบบไม่ต้องอ่าน เพราะเราจะแนะนำคุณด้วยภาพ ให้คุณสนุกไปกับการให้ภาพเล่าเรื่อง เว็บรีวิวหนังของเรา มีรีวิวหนังทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น หนังไทย หนังเก่า หนังใหม่ หนังต่างประเทศ หนังNetflix ซีรีย์ทั้งไทยและต่างประเทศ จบ ครบ ในที่เดียว

คิสซิ่งเจสสิก้าสไตน์

ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ คิสซิ่งเจสสิก้าสไตน์ ผลงานที่ถูกดัดแปลงมาจากละครเวที

                พูดถึงภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ที่อยู่นอกกระแสนั้น มีผลงานเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยในปี 2001 ที่ชื่อ คิสซิ่งเจสสิก้าสไตน์ ที่ได้ทางเจนนิเฟอร์ เวสต์เฟลด์ ฮีเธอร์ เจอเกนเซ่น โทวาห์ เฟลด์ชูและจอน แฮมม์ที่ต่อมามีชื่อเสียงจากเรื่องแมดเมนอีกด้วย ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นผลงานที่ดัดแปลงมาจากละครเวทีที่มีมาก่อนหน้านี้ที่นักแสดงทั้งสองคนแรกเคยเล่นร่วมกันมาก่อนในชื่อว่าลิปชติกในปี 1997 จนกระทั่งทางผู้กำกับอย่างชาร์ล เฮอร์แมน วัมเฟลด์จะร่วมงานกับทั้งสามเพื่อเปลี่ยนภาพยนตร์จอเงินเกี่ยวกับเพศทางเลือกในที่สุด     เนื้อเรื่อง คิสซิ่งเจสสิก้าสไตน์ เริ่มต้นมาจากทางผู้หญิงที่ชื่อเหมือนเรื่องอย่างเจสสิก้า สไตน์ ที่เป็นบรรณาธิกาหน้าตาดีคนหนึ่งวัย 28 ปีและเป็นชาวยิวที่ทำงานอยู่ในเมืองนิวยอร์ค ก่อนที่พี่ชายของเธออย่างแดนจะมีคู่หมั้นและเพื่อรักของเธออีกคนอย่างโจอานก็กำลังจะมีครอบครัว ซึ่งทำให้ทางแม่ของเธออย่างจูดี้เริ่มเป็นห่วงว่าลูกสาวอาจจะต้องอยู่คนเดียว หลังจากที่เธอเองได้ไปนัดบอดมาหลายครั้ง ก่อนที่สุดท้ายเธอเองจะไปตกหลุมรักกับเฮเลนซึ่งเป็นเพศเดียวกันจนทางเจสสิก้าจะต้องหาคำตอบกับความรู้สึกตัวเองให้ได้                 สำหรับภาพยนตร์เรื่องคิสซิ่งเจสสิก้าสไตน์นี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ได้ฉายในงานลอสแองเจลลิสฟิล์มเฟสติวัลพร้อมกับได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเหล่าคนดูและรางวัลพิเศษจากคณะกรรมการอีกด้วย ส่วนในด้านกระแสนักวิจารณ์นั้นได้มีมุมมองจากเหล่าแอลจีบีทีที่ออกมาวิจารณ์ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เจาะความยากลำบากในฐานะการเป็นเกย์ในชีวิตจริง แต่ทว่าพวกเขาก็ได้ยังรับคำชมที่นำเสนอเรื่องราวของเพศทางเลือกในด้านบวกมากขึ้น รวมถึงกลายเป็นผลงานต้นแบบสำหรับคนที่ต้องการทำเรื่องราวของหญิงรักหญิงอีกด้วย                 นับว่าคิสซิ่งเจสสิก้าสไตน์ได้กลายเป็นผลงานสำคัญของภาพยนตร์เพศทางเลือกนับตั้งแต่ปี 2001 เลยทีเดียว ทั้งรางวัลที่พวกเขาได้มาจากการภาพยนตร์เรื่องนี้

Continue Reading
ไอดิโอเครซี่

ไอดิโอเครซี่ เรื่องของทหารจำศีลที่นานเกินไปจน 5 ศตวรรษหรือ 500 ปีผ่านไป

                หากพูดถึงความสร้างสรรค์ของภาพยนตร์สักเรื่องนั้นคงจะต้องยกให้กับ ไอดิโอเครซี่ ที่มีผู้กำกับอย่างไมค์ จัดจ์และได้ทางลุค วิลสัน มาญ่า รูดอล์ฟกับแดกซ์ แชพพาร์ดที่มาแสดงกันในเรื่องนี้ ซึ่งเกิดขึ้นมาจากทหารคนหนึ่งที่ได้เข้าทำการทดลองจำศีล แต่ทว่าตัวเขาเกิดถูกนำไปแช่แข็งนานเกินไปจนกระทั่ง 500 ปีถัดมาและพบว่าโลกกลายเป็นเมืองร้างไปหมดแล้วอีกด้วย ส่วนการเข้าฉายของภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าออกฉายในโรงที่จำกัดอีกด้วย อีกทั้งทางฟอกซ์เองก็เหมือนจะไม่สนใจผลงานเรื่องนี้มากนัก แม้ว่าจะมีกระแสชื่นชอบในเวลาต่อมา  เรื่องราวของเรื่อง ไอดิโอเครซี่ นั้น เริ่มต้นมาจากทางทหารของสหรัฐอเมริกัน ในเรื่อง ไอดิโอเครซี่ โจ โบเออร์ได้เข้าทำการทดลองจำศีล แต่ทว่าเจ้าหน้าที่ของการทำการทดลองนี้กลับเกิดจ้างโสเภณีเข้ามาในหน่วยเข้ามาเพื่อทำการทดลองเพิ่ม เนื่องจากเจ้าหน้าที่หญิงในกองน้อยเกินไป ก่อนที่หัวหน้านั้นถูกจับจากการติดสินบนที่นำทางผู้หญิงเข้ามาจนกระทั่งการทดลองนี้ถูกทิ้งร้างไปนานกว่า 5 ศตวรรษหรือ 500 ปีผ่านไป ก่อนที่ตู้ของทั้งสองคนจะบังเอิญถูกเปิดจากกองขยะที่ถล่มลงมา จนกระทั่งทั้งสองคนจะต้องเผชิญกับความเป็นจริงของโลกใบใหม่                 ด้านกระแสตอบรับของเรื่องไอดิโอเครซี่นั้นถือว่าได้รับคำชมจากเหล่านักวิจารณ์อย่างมาก แม้ว่าตัวภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้มีการเปิดให้นักวิจารณ์เข้าชมในรอบสื่อก็ตาม โดยผลงานเรื่องนี้ถือว่าเป็นส่วนผสมที่ดีระหว่างความวุ่นวายกับความตลก อีกทั้งยังมีการล้อเลียนถึงสังคมอเมริกันในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น อีกทั้งในเรื่องนี้ยังสะท้อนถึงความเป็นภาพยนตร์ไซไฟที่วิจารณ์ต่อโลกในปัจจุบันที่อาจส่งผลเสียต่ออนาคตนั่นเอง                

Continue Reading
เดซแอนด์คอนฟิวส์

เดซแอนด์คอนฟิวส์ ภาพยนตร์วัยรุ่นที่เต็มไปด้วยนักแสดงดังที่น่าจดจำ

                เรียกว่าเป็นภาพยนตร์วัยรุ่นที่น่าจดจำไม่น้อยสำหรับทาง เดซแอนด์คอนฟิวส์ ที่มีเหล่านักแสดงดังในอนาคตอย่างเจสัน ลอนดอน เบน อาฟเฟกต์และมิลลา โจโววิช โดยเรื่องราวของเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับกลุ่มนักเรียนที่จะได้เรียนวันสุดท้ายก่อนจะปิดภาคเรียนในปี 1976 สำหรับผลงานเรื่องนี้นั้น แม้ว่าจะไม่ได้มีรายได้ที่ถล่มทลายอะไร แต่กลับเป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับการยกย่องอย่างมาก ทั้งการผู้กำกับอย่างควอนติน ทารันติโน่หรือทางนิตยสารอย่างเอนเตอร์เทนเมนต์วีคลี่ยังยกให้เรื่องนี้อยู่ในอันดับสิบของภาพยนตร์สุดฮาตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวของ เดซแอนด์คอนฟิวส์ นั้นจะเริ่มต้นในวันสุดท้ายของภาคเรียน เดซแอนด์คอนฟิวส์ที่ลีไฮสกูล โดยมีกลุ่มรุ่นพี่ที่เตรียมจะจัดงานรับน้องของรุ่นต่อไปที่จะมาถึงในปีหน้า ซึ่งแรนดัล ฟลอยด์ที่กำลังเป็นนักฟุตบอลคนสำคัญของทีมนั้นได้สัญญากับทีมแล้วว่าจะไม่ใช้สารเสพติดหรือทำเรื่องอะไรก็ตามที่จะทำให้ตัวเขาไม่สามารถแข่งขันเพื่อคว้าแชมป์ประจำฤดูกาลหน้าได้ จนกระทั่งเวลาเลิกเรียนมาถึงนั้น ทางเหล่ารุ่นพี่ก็เตรียมการรับน้องตามใจของตัวเอง ก่อนที่ต่อมาเรื่องราวจะวุ่นวายมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปจนถึงตกวันตกดินอีกด้วย                 ด้านกระแสตอบรับของเรื่องเดซแอนด์คอนฟิวส์นั้นถือว่าเป็นภาพยนตร์วันรุ่นที่หลายคนประทับใจอย่างมาก แม้ว่าจะทำเงินไปได้เพียง 8 ล้านเหรียญสหรัฐก็ตาม ส่วนในเว็บไซต์มะเขือเทศเน่านั้นได้ยกให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เรตติ้งที่ 92% และชื่นชมไปที่เหล่านักแสดงชื่อดังของเรื่องนี้ในสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่อีกทั้งยังย้อนบรรยากาศในเรื่องกลับไปยังปี 1970 ได้อย่างดี แม้ว่าภาพยนตร์จะถ่ายทำในช่วงยุค 90 ก็ตาม

Continue Reading
ภาพยนตร์เรื่องบิ๊ก

ภาพยนตร์เรื่องบิ๊ก เด็กในร่างผู้ใหญ่ผลงานการแสดงของทอม แฮงค์ ในปี 1988 แนวดราม่าคอเมดี้

                ว่ากันว่าตอนเด็กนั้น หลายคนก็ต้องการจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา แต่ทว่าหากเกิดเป็นเรื่องจริงแล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปเช่นกัน ซึ่งนั่นคือเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับ ภาพยนตร์เรื่องบิ๊ก ในปี 1988 ซึ่งได้นักแสดงอย่างทอม แฮงค์มาร่วมงานด้วย ก่อนที่จะช่วยสร้างชื่อให้กับนักแสดงคนนี้จนกลายเป็นดาราชั้นนำของวงการและมีผลงานต่อนเองจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว นอกจากนี้ภาพยนตร์ดราม่าคอเมดี้ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ได้สองสาขาด้วยกัน รวมถึงได้รับคำชื่นชมและทำรายได้ไปอย่างมากมายเลยทีเดีย ภาพยนตร์เรื่องบิ๊ก ที่สร้างรายได้อย่างมหาศาล ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม                 เรื่องราวของบิ๊กนั้นเริ่มต้นมาจากทางจอช แบสกินวัย 12 ปีที่อาศัยอยู่กับครอบครัว แต่ทว่ากลับน้อยใจที่ตัวเองไม่สามารถขึ้นเครื่องเล่นได้เพราะส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์ อีกทั้งยังเสียหน้าที่ตัวเขาอดสร้างความประทับใจกับเด็กสาวรุ่นอย่างซิเธียอีกด้วย จนกระทั่งตัวเขาได้ไปดูดวงในตู้เกมตัวหนึ่งพร้อมกับอธิษฐานว่าขอให้ตัวเองกลายเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา อีกทั้งยังมีข้อความออกมาจากตู้ว่าคำอวยพรจะได้รับแน่นอนทั้งที่ตู้ไม่ได้เสียบสายไฟไว้อีกด้วย จนกระทั่งวันต่อมาเขาก็กลายเป็นผู้ใหญ่ที่แม่ของตัวเองยังจำไม่ได้ ก่อนจะต้องตามหาตู้ดูดวงนั้นให้ได้ก่อนที่ตัวเขาจะกลับไปเป็นเด็กไม่ได้อีกต่อไป                 ด้านกระแสตอบรับของเรื่องบิ๊กนั้น ในเว็บไซต์อย่างมะเขือเทศเน่านั้นได้ให้เรตติ้งไว้สูงถึง 97% อีกทั้งยังเป็นผลงานที่สร้างชื่อให้กับทอม แฮงค์อย่างมาก ทั้งการแสดงที่สมบทบาทเหมือนเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่ รวมถึงผลงานเรื่องนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในเวทีอะเคเดมีอวอร์ดส สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและสาขาบทภาพยนตร์ต้นฉบับยอดเยี่ยมอีกด้วย แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ชนะก็ตาม นอกจากนี้ในด้ายรายได้นั้นพวกเขายังทำไปได้ถึง 150 ล้านเหรียญจากทั่วโลกพร้อมสถิติผู้กำกับหญิงคนแรกที่ทำผลงานได้เกิน

Continue Reading
เซฟตี้ลาสต์

เรื่องราวของ เซฟตี้ลาสต์ การเสี่ยงตายของฮาร์โรลด์ ลอยด์ในอดีต ในปี 1932

                ย้อนไปในปี 1932 นั้นถือว่าเป็นช่วงที่มีภาพยนตร์อย่างเรื่อง เซฟตี้ลาสต์ ออกมา ซึ่งมีฉากที่น่าจดจำในวงการที่นักแสดงนำอย่างฮาร์โรลด์ ลอยด์ได้ปีนขึ้นไปบนหอนาฬิกาที่เกือบจะตกลงมานั่นเอง โดยผลงานชิ้นนี้ได้ทำให้ชื่อเสียงของลอยด์กลายเป็นที่จดจำขึ้นมาในยุคนั้น ก่อนที่จะโลดแล่นในวงการอีกหลายปีต่อมา นอกจากนี้ในระหว่างการถ่ายทำนั้นตัวเขาก็ต้องแสดงเองในฉากการปีนต่างๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะได้รับอุบัติเหตุขณะถ่ายทำจนเสียนิ้วมือไปแล้วก็ตาม เรื่อง เซฟตี้ลาสต์ นั้นก็หนีไม่พ้นการแสดงของฮาร์โรลด์ ลอยด์ ที่ตัวเขายอมทุ่มทุน                 เรื่องของเซฟตี้ลาสต์นั้น เริ่มต้นมาจากทางพระเอกที่ไม่มีชื่อได้เตรียมจะเดินทางไปยังเมืองใหญ่พร้อมกับบอกลาแม่และแฟนสาว ก่อนที่จะสัญญาว่าจะกลับมาแต่งงานเมื่อตัวเขาร่ำรวยแล้ว เมื่อทางพระเอกได้ทำงานเป็นเสมียนแล้วนั้น ตัวเขาก็ต้องไปเจอผู้จัดการร้านที่คอยจะมีปัญหาอยู่เรื่อย พร้อมกับได้เข้าพักอยู่กับชายที่ชื่อว่าลิมปี้ที่เป็นคนงานก่อสร้างอีกด้วย ก่อนที่สุดท้ายแล้วตัวเขาจะต้องนำพาโคชะตาของตัวเองเพื่อไปยังจุดที่ประสบความสำเร็จให้ได้ แม้ว่าจะต้องใช้ชีวิตที่ยากลำบากและเผชิญเรื่องราววุ่นวายที่เข้ามาอีกด้วย                 สำหรับสิ่งที่สร้างชื่อให้กับเรื่องเซฟตี้ลาสต์นั้นก็หนีไม่พ้นการแสดงของฮาร์โรลด์ ลอยด์นี้เองที่ตัวเขายอมทุ่มทุนทั้งการแสดงฉากที่เสี่ยงอันตรายของตัวเองอย่างการปีนขึ้นไปบนหอคอยนาฬิกาเรือนใหญ่ที่สุดท้ายแล้วนั้นจะเป็นการหลอกตาของนักแสดงคนนี้ด้วยการใช้เทคนิคการถ่ายนั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยในช่วงหลังจากที่นักแสดงคนนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว รวมถึงกระแสตอบรับของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือว่ากลายเป็นของขึ้นหิ้งสำหรับลอยด์ไปเลย ทั้งความตื่นเต้นในตัวเรื่องและมุกตลกที่ใส่เข้ามานั่นเอง                 กลายเป็นว่าเรื่องเซฟตี้ลาสต์กลายเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลของฮาร์โรลด์ ลอยด์ไปเลย จากฉากที่น่าจดจำอย่างเรื่องที่เกิดบนนาฬิกาเรือนใหญ่ รวมถึงความทะเยอทะยานที่ตัวเขาต้องการเอาตัวรอดไปในเมืองใหญ่ที่เขาไม่เคยอยู่มาก่อน จนทำให้เกิดเปนภาพสะท้อนของคนในยุคนั้นได้อย่างดีเลยทีเดียว ฝากกดติดตามเว็บไซต์ เว็บหนังสำหรับคนชอบดูหนัง

Continue Reading
เวทฮอตอเมริกันซัมเมอร์

เวทฮอตอเมริกันซัมเมอร์ ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อของกลุ่มสเตท ในเรื่องราวกลุ่มวัยรุ่น

                ย้อนไปในปี 2001 นั้นได้มีภาพยนตร์ที่ออกมาล้อเลียนภาพยนตร์ตลกเกี่ยวกับเซกส์ที่นิยมกันในยุค 1980 อย่าง เวทฮอตอเมริกันซัมเมอร์ โดยเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตกันในวันสุดท้ายของการไปเข้าค่ายฤดูร้อน อีกทั้งยังมีกลุ่มนักแสดงจากเดอะสเตทอย่างเจนแอน กาโรฟาโล เดวิด ไฮด์ เพียซ มอลลี่ แชนนอล พอล รัดด์ คริสโตเฟอร์ เมโลนี ไมเคิล โชวอลเตอร์ รวมถึงนักแสดงหน้าใหม่ในเวลานั้นอย่างแบรดลีย์ คูเปอร์ ซึ่งในเวลาต่อมานั้นมีนักแสดงหลายคนจากเรื่องนี้ที่กลายเป็นนักแสดงชั้นนำของวงการอีกด้วย เวทฮอตอเมริกันซัมเมอร์ วันสุดท้ายของการไปเข้าค่ายฤดูร้อนในกลุ่มวัยรุ่น                 เรื่องราวของเวทฮอตอเมริกันซัมเมอร์นั้นเกิดขึ้นในค่ายไฟร์วูด ที่มีกลุ่มวัยรุ่นที่มาเข้าค่ายกันในวันสุดท้ายของฤดูร้อน โดยเหล่าคนที่เข้าค่ายนั้นจะมีโอกาสสุดท้ายที่จะสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ได้อีกด้วย ส่วนเบนกับซูซี่ที่เป็นผู้กำกับละครนั้นต่างก็ต้องการที่จะสร้างการแสดงที่ยิ่งใหญ่เพื่อส่งท้ายคืนนี้เช่นกัน ด้านเบธที่เป็นหัวหน้าค่ายนั้นก็ไม่สามารถจัดการผู้ที่มาเข้าร่วมได้ดีเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์กับเฮนรี่อีกด้วย ซึ่งทางชายหนุ่มเองก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่คำนวณไว้ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในค่ายนี้เช่นกัน                 ด้วยความวุ่นวายของเรื่องเวทฮอตอเมริกันซัมเมอร์นี้เอง ที่ทำให้กระแสตอบรับนั้นไปเป็นในทางลบเสียส่วนมาก ด้วยเนื้อเรื่องที่แสนจะงี่เง่าสำหรับสายตาคนดูจนทำให้การแสดงของกลุ่มเดอะสเตทกับคนอื่นๆ นั้นยังไม่สามารถพยุงภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ทำรายได้อีกเช่นกัน

Continue Reading
บาร์เบอร์ช็อป

บาร์เบอร์ช็อป ภาพยนตร์ที่สามารถสร้างชื่อของนักแสดงหน้าใหม่มากมายในปี 2002

                ในยุคสมัยที่นักแสดงอย่างอีฟหรือไมเคิล อัลลียังไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก พวกเขาก็เริ่มมาเป็นที่รู้จักขึ้นในปี 2002 ผ่านภาพยนตร์เรื่อง บาร์เบอร์ช็อป หรือเรื่องราวของเหล่าช่างตัดผมที่กำกับโดยทิม สตอรี่นั่นเอง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากจะช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับนักแสดงหลายคนแล้วนั้น ยังมีกระแสตอบรับที่ดีอย่างมากจนเกิดเป็นภาคสองกับภาคสามในเวลาต่อมา รวมถึงด้านคำวิจารณ์ที่ออกไปในทิศทางบวกพร้อมกับรายได้ของเรื่องเองก็ทำไปได้เกินกว่าต้นทุนอย่างมากจนเรียกได้ว่าเป็นหมุดสำคัญของหลายคนที่เกี่ยวข้องเลยนั่นเอง บาร์เบอร์ช็อป เรื่องราวเกี่ยวกับช่างตัดผมที่กระแสตอบรับเป็นอย่างดี                 เรื่องราวของบาร์เบอร์ช็อปนั้นก็เริ่มต้นมาจากทางคัลวิน พลัมเมอร์จูเนียร์ที่แสดงโดยไอซ คิวบ์ได้รับบทเป็นทางช่างตัดผมที่จะต้องดูแลกิจการต่อจากผู้เป็นพ่อ แต่ทว่าตัวเขากลับไม่ได้สามารถทำกำไรได้เลย จนเริ่มจะหาทางสร้างรายได้แบบทางลัดแทน ด้วยเหตุนี้เองตัวเขาก็ได้เลือกที่จะขายกิจการไปให้กับเจ้าพ่อเงินกู้เพื่อเปิดเป็นร้านโชว์สาวเปลือยแทน แต่ทว่าตัวเขากลับเริ่มมาคิดได้ทีหลังว่าร้านแห่งนี้มีผลกับชุมชนของตัวเองมากเกินไปจนต้องการจะเอาร้านกลับมา ซึ่งตัวเขาจะต้องหาเงินสองเท่าจากที่ได้ไปเพื่อเอาร้านกลับมาให้ได้                 ส่วนทางด้านกระแสตอบรับของเรื่องบาร์เบอร์ช็อปนั้นพวกเขาสามารถทำรายได้ไปมากถึง 77 ล้านเหรียญสหรัฐจากการเข้าฉายทั่วโลกเมื่อเทียบกับต้นทุนเพียง 12 ล้านดอลลาร์เท่านั้น นอกจากนี้ในคำพูดของเหล่านักวิจารณ์นั้นพวกเขาได้ยกให้เรื่องราวที่แฝงไปด้วยความตลกและข้อคิดเกี่ยวกับชุมชนนี้เป็นสารที่ทีมงานต้องการจะสื่อออกมาได้อย่างดี อีกทั้งยังทำให้เห็นคุณค่ากัลป์ชุมชนที่อยู่ได้ดีขึ้นอีกเช่นกัน นอกอจากนี้ตัวเรื่องยังประสบความสำเร็จจนสร้างชื่อนักแสดงอย่างอีฟและไมเคิล อัลลีอีกด้วย                 กลายเป็นเรื่องบาร์เบอร์ช็อปเองได้ทิ้งอะไรสำคัญไว้อย่างมากมายแก่ผู้ชมอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งนี่ก็คงเป็นสาเหตุให้เรื่องราวเกี่ยวกับช่างตัดผมคนนี้ได้ถูกนำมาถ่ายทอดอีกครั้งในปี 2004 พร้อมกับได้นักแสดงทั้งหมดกลับมาร่วมงานอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเว้นไปนานจนกระทั่งปี 2016

Continue Reading
พิทช์เพอร์เฟกต์

พิทช์เพอร์เฟกต์ ภาพยนตร์วัยรุ่นเรื่องราวเกี่ยวกับการแข่งขันของวงอะแคปเปลล่า

พิทช์เพอร์เฟกต์ ถือว่าเป็นผลงานเกี่ยวกับภาพยนตร์วัยรุ่นอีกเรื่องสำหรับทางพิทช์เพอร์เฟกต์ โดยนำทีมนักแสดงอย่างแอนน่า เคนดิค สกายล่า แอสติน เรเบล วิลสัน แอนนา แคมป์ บริททานีย์ สโนว์ ฮาน่า เมย์ ลี เอสเธอร์ ดีน เคลลีย์ แจกเกิ้ลและเชลลีย์ เรคเนอร์ โดยพวกเธอได้แสดงเป็นนักศึกษาในมหวิทยาลัยบาร์เดนที่จะต้องไปแข่งกันกับอีกกลุ่มอะแคปเปลล่าหนึ่งเพื่อชิงแชมป์ระดับประเทศมาให้ได้ ซึ่งผลงานชิ้นนี้ได้ถูกดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกัน รวมถึงได้รับกระแสตอบรับดีจนกระทั่งมีภาคต่ออกมาถึงสองภาคด้วยกัน พิทช์เพอร์เฟกต์ ที่ภาพยนตร์เกี่ยวกับกลุ่มอะแคปเปลล่านี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรื่องราวของพิทช์เพอร์เฟกต์นั้นเริ่มต้นในปี 2011 จากรอบชิงชนะเลิศรายการไอซีซีเอที่วงอะแคปเปลล่าจากมหาวิทยาลัยบาร์เดนได้แพ้ต่อคู่แข่งที่เป็นชายล้วน ขัดกับพวกเธอที่มีแต่สมาชิกเป็นผู้หญิง โดยการพ่ายแพ้นั้นได้มาจากนักแสดงปีสองอย่างออเบรย์ โพเซ่นที่บังเอิญอาเจียนออกมาขณะร้องเพลงอยู่ จนกระทั่งสี่เดือนต่อมาทางเบคก้า มิทเชลจะต้องเข้ามาสู่มหาวิทยาลัยนี้จากการบงคับของพ่อตัวเองที่บังเอิญเป็นผู้สอนวิชาวรรณกรรมในที่เดียวกันพอดี ก่อนที่เธอจะบังเอิญไปร่วมกลุ่มนักร้องประสานเสียงเหล่านี้เพื่อคว้ารางวัลไปให้ได้ ด้านกระแสตอบรับของพิทช์เพอร์เฟกต์นั้น ในเว็บไซต์ที่มักจะให้คะแนนอย่างมะเขือเทศเน่าก็ได้มีการแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนอยู่ที่ 80% จากยอดรีวิวทั้งหมด 151 คน

Continue Reading
บลอคเกอร์ส

บลอคเกอร์ส เรื่องราวของพ่อแม่ที่กลัวลูกสาวเสียตัว จึงต้องการจะไปหยุดยั้งพวกเขา

บลอคเกอร์ส นับว่าเป็นเรื่องราวที่หลายคนชื่นชอบไม่น้อยสำหรับเรื่องบลอคเกอร์ส ที่ได้ทางจอห์น ซีน่า เลสซี่ แมนน์และไอแซค บารินโฮลซ์มาเป็นนักแสดงนำ โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวข้องกับเหล่าพ่อแม่ทั้งสามคนที่ได้พยายามห้ามเหล่าลูกสาวของตัวเองไปงานพรอมเนื่องจากพวกเขากลัวว่าพวกเธอจะเกิดมีเพศสัมพันธ์ขึ้นมาในคืนนั้น ก่อนที่จะเกิดความุว่นวายตามมา ซึ่งผลงานชิ้นนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกจากเสียงของนักวิจารณ์ รวมถึงรายได้จากโรงภาพยนตร์ที่เรียกว่าประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียว บลอคเกอร์ส ได้สร้างความประทับใจให้แก่เหล่าคนดูอย่างมาก และทำเงินไปได้มากกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื้อเรื่องของบลอคเกอร์สนั้นได้เริ่มต้นขึ้นมาจากแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างลิซ่า เดคเกอร์ที่เลี้ยงลูกสาวอย่างจูเลีย ที่ได้เจอเพื่อนชื่อเคย์ล่ากับแซมมาตั้งแต่อนุบาล รวมึงได้รู้จักกันพ่อของเด็กทั้งสองคนอย่างมิทเชลกับฮันเตอร์จนทั้งสามคนสนิทกัน จนกระทั่งเวลาผ่านไปสิบสองปีจากนั้น ทางจูเลียได้คุยกับเพื่อนทั้งสองคนว่าต้องการจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในงานพรอมเช่นเดียวกับเคย์ล่า ส่วนแซมนั้นเป็นเลสเบี้ยนเลยไม่ต้องการจะทำแบบนั้น แต่ยังคงชวนเพื่อนชายที่ดูไร้พิษสงอย่างแชดไปแทน จนกระทั่งพ่อกับแม่ของทั้งสามคนได้รู้แพลนนี้เลยต้องการจะไปหยุดยั้งพวกเขาเอาไว้ สำหรับรายได้ของภาพยนตร์เรื่องบลอกเกอร์สนั้น พวกเขาสามารถทำเงินไปได้มากกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐจากทวีปอเมริกาเหนือ รวมถึงรายได้ทั่วโลกไปถึง 94 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยกัน ซึ่งตัดจากต้นทุนที่ 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย ส่วนทางด้านคำวิจารณ์นั้นหลายคนได้ยกให้เรื่องราวที่เป็นการสะท้อนกันระหว่างพ่อแม่ที่แสดงโดยซีน่า แมนน์และบารินโฮลซ์กับเรื่องราวเกี่ยวกับเซกซ์ที่มักจะถูกทำเป็นผลงานตลกได้อย่างลงตัวจนได้คะแนนจากเว็บไซต์มะเขือเทศเน่าไปที่ 84% ด้วยกัน นับว่าภาพยนตร์เรื่องบลอกเกอร์สนั้นได้สร้างความประทับใจให้แก่เหล่าคนดูอย่างมาก

Continue Reading
ภาพยนต์แบงค์ดิค

ภาพยนต์แบงค์ดิค เรื่องราวสุดฮาของขี้เมาที่กลายเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

ภาพยนต์แบงค์ดิค ย้อนไปในปี 1940 นั้นได้มีภาพยนตร์ที่ชื่อว่าแบงค์ดิคออกมาที่กำกับโดยวิลเลี่ยม ฟิลด์ ซึ่งเจ้าตัวได้เป็นคนนำแสดงเองด้วย โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่กำลังเมาอยู่แล้วไปช่วยขัดขวางการโจรกรรมในธนาคารแห่งหนึ่งจนลงเอยด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียเอง อีกทั้งผลงานชิ้นนี้ยังเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่หลายคนยอมรับว่าเป็นผลงานต้นแบบของผู้กำกับคนนี้ รวมถึงถูกนำไปเก็บรักษาไว้โดยเนชั่นนัลฟิล์มอินดัสทรีจากประเทศสหรัฐอเมริกาจากการสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อีกด้วย ภาพยนต์แบงค์ดิค ที่ชายคนหนึ่งกำลังเมาอยู่แล้วไปช่วยขวางการโจรกรรม จนลงเอยเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เรื่องราวของแบงค์ดิคนั้นได้เริ่มต้นมาจากทางเอกเบิร์ต โซซี่ได้มีความสัมพันธ์กับภรรยาของตัวเองกับแม่ยายที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากตัวเขาชอบดื่มสุรามากเกินไป จนกระทั่งทางโซซี่ได้ออกมายังในเมืองพร้อมกับจะได้เสนอให้เข้าทำงานกับตัวเขา จนกระทั่งบังเอิญสามารถไปจับโจรที่เข้ามาปล้นธนาคารได้จนกลายเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลธนาคารหรือนักสืบประจำธนาคารนั่นเอง รวมถึงจะมีการแอบขโมยเงินจากธนาคารเพื่อเอาตัวเงินมาลงทุนผ่านร้านสเต็กที่ดูไม่น่าเชื่อถือนัก ก่อนที่ต่อมาตัวเขาจะบังเอิญจับผุ้ร้ายได้อีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ ด้านกระแสตอบรับของเรื่องแบงค์ดิคนั้น จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ได้ออกมาแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ว่ามีไว้สำหรับคนที่ต้องการเสียงหัวเราะ ทั้งมุกตลกต่างๆ ที่สอดแทรกเข้ามา รวมถึงการเล่าเรื่องที่เข้ากันได้อย่างดี จนกหลายคนได้ยกผลงานชิ้นนี้ของฟิลด์ว่าใกล้เคียงกับภาพยนตร์ของชาร์ลี แชมป์ลินในช่วงที่ยังอยู่กับค่ายมูชัวร์กับเอสสาเนย์ที่มีกลิ่นของมุกตลกผสมกับเนื้อเรื่องอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการนำภาพยนตร์ของชายขี้เมานี้ไปเทียบกับผู้กำกับอีกคนอย่างแมค เซนเนทที่เป็นหนึ่งในผู้ริเร่มสร้างภาพยนตร์ตลกอีกด้วย เรียกได้ว่า แบงค์ดิคนี้มีความเป็นภาพยนตร์ตลกผสมกับยุคก่อนได้เป็นอย่างดีจากวิลเลี่ยม ฟิลด์ รวมถึงการให้คะแนนของเว็บไซต์มะเขือเทศเน่านั้นก็ให้อยูที่ 100% จากคนโหวตถึง 21 คน ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ไม่มีข้อเสียเลยทีเดียว จนแฟนภาพยนตร์แนวคอเมดี้ควรกลับไปรับชมสักครั้งในชีวิตเลยทีเดียว ติดตามข่าวสารอื่น ๆ

Continue Reading