Dumb and Dumberer

ภาพยนตร์ตลก Dumb and Dumberer ภาคย้อนวัยที่ล้มไม่เป็นท่าของผู้กำกับอย่างทรอย มิลเลอร์

               Dumb and Dumberer ภาพยนตร์ตลกระดับตำนานอย่าง Dumb and Dumber ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างชื่อให้กับจิม แคร์รี่และเจฟฟ์ เดเนี่ยลส์จนชื่อของฝ่านแรกกลายเป็นดาราตลกมาจนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งในปี 2003 ที่ผู้กำกับอย่างทรอย มิลเลอร์ต้องการสร้างภาคต่อโดยย้อนวัยกลับไปสมัยที่แฮรร์ ดันน์และลอยด์ คริสต์มาสได้กลับเป็นนักเรียนมัธยมอีกครั้งพร้อมเล่าเรื่องที่ทั้งสองคนมาเจอกันได้อย่างไร แม้ว่าผลตอบรับของเรื่องจะออกมาอย่างแย่เลยก็ตาม

Dumb and Dumberer

ภาพยนตร์ตลก Dumb and Dumberer ที่ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดแย่ ในปี 2004

               สำหรับภาพยนตร์ตลกภาคต่อของใครว่าข้าแกล้งโง่นั้นที่ได้ดาราดาวรุ่งอย่างเดเรก ริชาร์ดสันที่ต่อมาจะสร้างจากการแสดงในซีรีย์แองเกอร์ เมเนจเมนต์ที่รับบทเป็นแฮร์รี่ ดันน์และเอริค โอเซ่นที่มารับไม้ต่อจากจิมแคร์รี่ในบทบาทของลอยด์ คริสต์มาสตัวแสบประจำเรื่องที่บังเอิญได้มาพบกับแฮร์รี่ในโรงเรียนที่พ่อบุญธรรมทำงานอยู่ ก่อนที่ทั้งสองจะมีโอกาสไปพัวพันกับการโกงของครูใหญ่ของโรงเรียนจนเกิดเรื่องวุ่น ๆ ขึ้น

ภาพยนต์ตลก Dumb and Dumberer

               ในส่วนของกระแสตอบรับของภาพยนตร์ตลกเรื่องนี้นั้น พวกเขาสามารถทำรายได้ถึง 33 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งถือว่าเกินต้นทุนอยู่พอสมควร แต่ทว่าสำหรับนักวิจารณ์นั้นภาพยนตร์ตลกภาคต่อเรื่องนี้ถือว่าสอบตกเลยทีเดียว ทั้งคะแนนจากเว็บมะเขือเทศเน่าที่ได้เพียง 10 คะแนนจาก 100 รวมถึงถูกเสนอเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดแย่ในทั้งสองเวทีอย่างโกลเดนราสเบอร์รี่และสติงเกอร์แบดมูฟวี่ในปี 2004 นั่นเอง

ภาพยนต์ตลก

               โชคดีที่แฟนๆ ของภาพยนตร์ตลกเรื่องนี้ยังมีโอกาสได้ชมภาคต่อจริงๆ จากนักแสดงอย่างเดเนี่ยลส์และแคร์รี่ในปี 2011 อย่าง Dumb and Dumber To ที่เป็นเรื่องราวของลอยด์ที่ต้องพาแฮร์รี่ไปหาลูกสาวของเขาที่เจ้าตัวไม่เคยพบหน้ามาก่อน และทำรายได้ไปกว่าร้อยล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว

ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่ รีวิวหนังที่ไม่เหมือนใคร เว็บไซต์ รีวิวภาพยนตร์ และ ซีรีส์ “เสียดาย” รีเมค 2020 ที่บอกเลยว่าเป็นซีรีย์ที่น่าดูมาก ๆ ผลิตโดย หม่อมราชวงศ์ ศรีคำรุ้ง ยุคล