รีวิว Final Destination หนังที่ออกแบบความตายได้สร้างสรรค์ที่สุดตลอดกาล

สำหรับคอหนังโหดเลือดสาดต้องห้ามพลาดกับหนังภาคต่อ Final Destination แน่นอนครับ ต้องยกนิ้วให้กับการครีเอทความตายในแต่ละรูปแบบและไอเดียการเล่าเรื่องต่อกันแต่ละภาคที่ชวนติดตามทำให้ Final Destination กลายเป็นหนังที่ครองใจคนทั่วโลกและทำรายได้มากกว่า 600 ล้านดอลล่าร์สหรัฐกับผลงานที่ผ่านมากับ 5 ภาคต่อในเวลา 20 ปี วันนี้ผมเลยอยากมาเขียน รีวิว Final Destination หนังชุดสุดโหด ดีไซน์ฉากความตายได้โคตรดี!

คอนเซ็ปต์ “โกงความตาย” ของ Final Destination เกิดขึ้นจากอะไร?

Final Destination เริ่มฉายครั้งแรกเมื่อปี 2000 ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ อยู่เลยครับ เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ เจฟฟรี่ เรดดิค ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัท New Line Cinema จัดอยู่ในกลุ่มหนังสยองขวัญสั่นประสาทคนดูครับ แน่นอนสิ! ตอนเด็กๆ จำได้ว่าต้องปิดตาดูไปตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ในด้านการเล่าเรื่องค่อนข้างน่าสนใจครับ เป็นแนวเหนือจริงแต่ไม่เน้นแฟนตาซีทะลุมิตินะครับ คอนเซ็ปต์ของหนังฉีกกฏของความตาย คือสัจธรรมของความตายนั้นไม่เคยมีสัญญาณเตือนเราล่วงหน้า แต่ถ้ามีล่ะ? จะมีใครโกงความตายได้หรือไม่ และความตายเหล่านั้นจะมีทางป้องกันได้จริงหรือ…ในเมื่ออะไรก็อาจเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องบังเอิญชัดๆ ในชีวิตประจำวัน ทำให้เราพบเห็นข่าวการตายสุดแปลกประหลาดทั่วโลกอยู่บ่อยๆ ก็เพราะคอนเซ็ปต์คนจะตายไม่เลือกเวลาและคาดเดาวิธีการตายไม่ได้เนี่ยแหละที่ทำให้ผู้กำกับแกเล่นกับบทซะเหมือนเลือกละเลงสีลงบนผืนผ้าใบอย่างเมามันเลยแหละครับ

ภาพนิมิตชวนพิศวง จุดกำเนิดหนังภาคต่อ Final Destination ทั้ง 5 ภาค

ผมจะเล่าคร่าวๆ กับภาคแรกนะครับ ส่วนภาคอื่นๆ คุณจะต้องไปตามดูกันเอาเอง แต่คอนเซ็ปต์ก็ยังหนักแน่นแบบเดิมคือ สยองเลือดสาด ศพเกลื่อน สยองขวัญจนหลอนนอนไม่หลับ ระแวงพัดลมบนเพดานห้องไปเลยก็มี ฮ่าๆๆ เรื่องมีอยู่ว่ามีคน 7 คนรอดชีวิตชนิดโกงความตายทั้งๆ ที่พวกเขาจะต้องโดยสารเที่ยวบินที่ภายหลังเกิดอุบัติเหตุขัดข้อง ทำให้เครื่องบินต้องระเบิดกลางเวหา แต่พวกเขาได้ลงเครื่องมาก่อนจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี่น่ะสิ ทำให้พวกเขารอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ครับ คนที่รอดจากความตายแบบฉิวเฉียดทั้ง 7 นี้รอดมาได้เพราะ 1 ใน 7 คนนี้เกิดเห็นภาพนิมิตว่าเครื่องบินลำนี้กำลังจะระเบิดหากนำเครื่องบินขึ้น และมีญาณรู้ถึงอนาคตเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่มีรายละเอียดอย่างไรเป็นลำดับๆ เพื่อนของเขาที่ไปด้วยกันใครจะตายก่อนหลัง ตายอย่างไร เขาจึงตกใจตะโกนโหวกโหวกออกไปให้ทุกคนพยายามหนี แต่… เมื่อคุณเป็นผู้โดยสารด้วยกัน คุณจะคิดว่าคนแบบนี้บ้าไหมครับ เมื่ออีตาพระเอกของเรายังไม่หยุดโวยวายจนเริ่มเกิดความโกลาหลยกใหญ่ พนักงานสายการบินจึงต้องเชิญเขาและเพื่อนอีก 6 คนลงจากเครื่องบินลำนั้นรวมเป็นผู้รอดชีวิตทั้ง 7 คน โดยที่แต่ละคนก็ยังได้กลับไปใช้ชีวิตของตัวเองแบบปกติตามเดิมโดยที่ไม่ได้เตรียมรับมือกับระลอกสองเลย เพราะพระเอกของเราก็ยังไม่วายเกิดเห็นนิมิตภาพการตายแปลกๆ ของคนรอบข้างอยู่ชนิดที่ว่ารู้รายละเอียดทั้งหมด รู้เหมือนเป็นยมฑูตเสียเอง ทั้งยังต้องมารับมือกับตำรวจสายสืบที่สงสัยว่าพระเอกล่วงรู้ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุสยองกับเที่ยวบินนั้นได้อย่างไร ต้องไปลุ้นกันครับว่าภาพนิมิตของพระเอกจะจริงหรือไม่ คนที่เชื่อและปฏิบัติตามคำเตือนจะรอดตายหรือสุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี และมีหนทางอะไรที่จะทำให้โกงความตายได้สำเร็จ เปิดมาให้ขนาดนี้ใครยังไม่เคยดูต้องลองแล้วล่ะ ส่วนใครที่เคยดู กลับมาดูหนัง Final Destination มาราธอน 5 ภาครวดด้วยกันอีกครั้งมั้ยครับ แต่ไม่รับประกันนะว่าดูจบทุกภาคต่อกันแล้วจะนอนหลับฝันดี ฮ่าๆๆ

รีวิว Final Destination ยกให้เป็นหนังที่ออกแบบความตายได้สร้างสรรค์ที่สุด!

สำหรับหนังเรื่องนี้ผมขอการันตีว่าดีเยี่ยม ทั้งการผูกเรื่องได้ดี ลำดับเหตุการณ์ในนิมิตและนอกนิมิตได้เห็นภาพดี ดูแล้วไม่สับสน CG ภาคแรกอาจจะยังไม่เนียนมาก แต่ถือว่าก็ยังคงเป็นหนังสนุกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ลองดูกันครับ ที่ต้องอวยเป็นพิเศษคือแต่ละฉากความตายออกแบบได้อย่างสร้างสรรค์มาก ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะตายได้ด้วยเหตุการณ์พวกนี้ มันสุดล้ำและแปลกมากๆ เลยครับ นี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมและคอหนังอีกหลายล้านคนยังคงเชื่อว่า “Final Destination คือหนังที่ออกแบบความตายได้สร้างสรรค์ที่สุดตลอดกาล”

ความคาดหวังสำหรับเเฟนๆ ที่รออ่านรีวิว Final Destination ภาค 6?

ส่วนใครที่กำลังรอภาค 6 อยู่นั้นขอบอกว่ายังไม่หมดหวังเสียทีเดียวครับ เพราะนับตั้งแต่ภาค 5 ที่ออกมาเมื่อปี 2011 ก็ไม่ได้ข่าวอีกเลย แต่เร็วๆ นี้มีการให้สัมภาษณ์จากทางทีมงานผู้จัดทำที่เปิดเผยว่าอาจจะมีการนำสุดยอดหนังภาคต่อ Final Destination กลับมารื้อทำต่ออีกครั้ง แต่ถ้าถามผมนะ ภาค 5 ค่อนข้างจะตอบโจทย์มากแล้ว โดยที่ภาค 5 เล่าถึงกลุ่มพระเอกนางเอกที่รอดชีวิตมาทั้งเรื่องแต่ในตอนจบ เรื่องราวในหนังวนลูปกลับไปจบบนเครื่องบินลำที่อยู่ในภาค 1 นั่นแหละ จบได้เยี่ยมมั้ยล่ะครับ ผมว่าสมบูรณ์แบบแล้วนะ แต่ถ้าจะมีภาค 6 ต่อก็พร้อมซื้อตั๋วไปดูครับ และทางทีมผู้กำกับก็เอ่ยออกมาเองว่าถ้าจะทำภาค 6 อาจจะเปลี่ยนมุกหนังหน่อย คอนเส็ปต์ยังคงเข้มข้นเหมือนเดิม แต่อาจจะต้องเปลี่ยนแนวทางการเล่า ซึ่งทำให้ผมแอบกลัวนิดนึงว่ามันจะไม่อยู่ในจักรวาลเดิมนี่สิ ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันให้ดีครับว่าจะมีภาค 6 หรือไม่ และพลาดไม่ได้อีกเหมือนกัน ติดตามอ่านรีวิวบ้านๆ รีวิวหนังตรงชัดจัดเต็มได้ที่นี่ที่เดิมนะคร้าบ