Pinoccio รักนี้หัวใจไม่โกหก (2014) ซีรี่ย์เกาหลีในตำนานที่ตีแผ่วงการสื่อ เข้มข้น ดราม่า คอมเมดี้ครบรส

 

 

มาครับ…แอดดูจบไปสดๆ ร้อนๆ ครับกับซีรี่ย์ในตำนานอีกเรื่องที่อยากมาแนะนำหลายๆ ท่านที่ชื่นชอบซีรีย์เข้มข้น มีปมสืบสวน และดราม่า กับ Pinoccio รักนี้หัวใจไม่โกหก ซีรี่ย์เกาหลีน้ำดีที่ได้นักแสดงนำอย่าง อีจงซ็อก และ พัคชินฮเย มาแสดงนำ เรื่องนี้มีสาระมากๆ ครับ ดูจบแล้วได้ข้อคิดมากๆ เลยทีเดียว แต่ท้ายๆ เรื่องบทแอบยืดไปหน่อยเท่านั้นเอง ถ้าใครชอบแนวนี้น่าจะรักเลยล่ะครับ เป็นซีรี่ย์ผู้ใหญ่ บทชงเข้มมาก แต่ละอย่างที่ตัวละครต้องเผชิญและตัดสินใจถือเป็นเรื่องที่ยากทั้งนั้นเลย ทำให้เราลุ้นไปกับตัวละครตั้งแต่เริ่มต้นเลยว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร

 

 

 

Pinoccio เปิดเรื่องมาอย่าง Happy เลยครับ พระเอกเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัวหนึ่งที่อบอุ่นมาก พ่อพระเอกเป็นหัวหน้าชุดกู้ภัยหน่วยงานดับเพลิง ส่วนแม่ก็เป็นแม่บ้านที่แสนดี พระเอกมีพี่ชายที่คอยดูแลน้องอย่างดี ทั้งพระเอกและพี่ชายก็อายุห่างกันไม่มาก ประมาณ 3-4 ปีครับไล่เลี่ยกัน เรียนเก่งเหมือนกัน ครอบครัวอบอุ่น ทุกอย่างกำลังไปได้สวย หน้าที่การงานพ่อก็ได้เลื่อนขั้น ได้รางวัลพนักงานดีเด่นด้วย เพื่อนฝูงก็รักใคร่มากๆ แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นั่นคือพ่อพระเอกตายในหน้าที่ หลังจากได้รับแจ้งให้เข้าไปดับเพลิงในอาคารกำจัดของเสียที่มีวัตถุไวไฟอยู่จำนวนมาก พ่อพระเอกได้รับแจ้งจากผู้รอดชีวิตที่วิ่งออกมาจากตัวอาคารว่ายังมีคนเจ็บติดอยู่ภายในจึงนำทีมชุดดับเพลิงเข้าไปหวังจะไปช่วย แต่จนแล้วจนรอดก็โดนระเบิดเสียชีวิตกันยกทีม และผู้รอดชีวิตก็มาทราบทีหลังจากเพื่อนร่วมงานว่าแจ้งหน่วยกู้ภัยผิดไป อันที่จริงแล้วภายในอาคารไม่มีคนเหลือแล้ว ออกมาได้ทั้งหมด แต่เขาและเพื่อนเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเพราะเกรงว่าความผิดที่ทำให้อาคารไฟไหม้จะเข้าพวกของตนจึงเลือกที่จะให้ปากคำโกหกตำรวจไปว่าได้เตือนทีมกู้ภัยแล้วว่าไม่มีใครอยู่แล้ว แต่หัวหน้าทีมไม่เชื่อ ยืนยันว่าจะเอาคนเข้าไปดับไฟด้านในให้ได้

 

 

 

ต่อมาเมื่อตำรวจปิดสำนวนคดีนี้ คนที่ดูจะมีความผิดมากที่สุด โดนประณามหนักที่สุดก็คือพ่อพระเอกนั่นเองครับ เพราะทุกครอบครัวที่ต้องสูญเสียสมาชิกครอบครัวไปก็ตั้งคำถามว่าเหตุใดพ่อพระเอกจึงต้องดึงดันจะเอาทีมงานเข้าไปข้างในทั้งที่ไม่มีใครอยู่แล้ว เรื่องเข้มข้นไปอีกขั้นเมื่อพยานที่เป็นโรค Pinoccio (โรคโกหกไม่ได้) เห็นคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายพ่อพระเอกและจำได้เพราะรู้จักหน้าตา จึงโทรแจ้งไปยังสถานีตำรวจว่าคนนี้หลบหนีจากอาคารไฟไหม้ได้และยังมีชีวิตอยู่ สื่อและคนทั้งประเทศจึงมุ่งเป้าโจมตีครอบครัวพระเอก

 

 

หลังจากที่โดนทำข่าวหนักมากและโดนก่อกวนทุกช่องทาง กลายเป็นว่าจุดพีคอยู่ตรงที่แม่พระเอกเลือกที่จะฆ่าตัวตายเพราะทนเสียงก่นด่าของคนไม่ไหว และเอาลูกคนเล็กก็คือพระเอกไปด้วย ส่วนพี่ชายพระเอกไม่ปรากฏในตอนต้นของเรื่องว่าหายออกจากบ้านไปไหนในวันนั้น มาทราบอีกทีคือน้องและแม่กระโดดหน้าผาทะเลฆ่าตัวตายไปแล้ว

 

 

 

 

 

ไทม์ไลน์ของเวลาก็ผ่านพ้นไปอย่างไว เปิดฉากมาอีกทีพระเอกรอดชีวิตครับ ได้ลุงแก่ๆ ในหมู่บ้านชาวประมงช่วยชีวิตไว้และดูแลเหมือนลูก ลุงแกเป็นโรคอัลไซเมอร์ครับ ลูกชายคนโตแกตายไปตั้งแต่ตัวเท่าพระเอกเนี่ยแหละ แกออกเรือแล้วไปเจอพระเอกลอยมาก็เลยช่วยชีวิตไว้และเลี้ยงดู เพราะคิดว่าเป็นลูกชายของตัวเองที่กลับมาหา เสมือนว่าเรื่องที่ลูกชายตายไปแล้วไม่เคยเกิดขึ้น ทีนี้พระเอกก็ได้ตัวตนใหม่เลย ชื่อใหม่ด้วย และก็ได้เจอนางเอกซึ่งเป็นหลานของลุงคนนี้แหละ เรียนด้วยกัน โตมาด้วยกัน และโลกก็กลมขึ้นไปอีกเมื่อนางเอกคือลูกสาวของนักข่าวที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการทำข่าวโจมตีครอบครัวพระเอกจนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครอบครัวพัง แตกกระสานซ่านเซ็น แม่เสียชีวิต พี่ชายหายสาบสูญ… เอาประมาณนี้ก่อนครับ

 

 

ในส่วนของนางเอก พ่อกับแม่แยกทางกัน แม่เป็นนักข่าวที่ทำแต่งานไม่สนใจครอบครัว นางเอกก็ติดสอยห้อยตามพ่อมาอยู่บ้านนอกได้เจอพระเอก และนางเอกก็เป็นโรค Pinoccio ด้วย อ่า เริ่มน่าสนใจใช่มั้ยล่ะ

ลืมเกริ่นไปครับว่าโรค Pinoccio เนี่ยเป็นชื่อโรคที่ผู้ป่วยไม่สามารถพูดโกหกได้ หากรู้ตัวว่าพูดไม่จริง ร่างกายจะแสดงออกทันทีแบบอัตโนมัติด้วยอาการสะอึกไม่หยุด ไม่สามารถฝืนร่างกายได้ จนกว่าจะได้พูดความจริงออกมาจึงจะหยุดสะอึก นั่นแหละจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่อจากนี้

 

 

 

 

 

หลังจากที่พระเอก นางเอกโต ทั้งคู่ก็ได้ทำอาชีพนักข่าวแต่อยู่คนละสำนักข่าวกัน จุดมุ่งหมายของพระเอกคือสืบค้นข่าวเรื่องพ่อตัวเอง พี่ชายตัวเอง และทวงความยุติธรรมให้ข่าวของพ่อให้ได้ เป็นการเริ่มต้นแก้แค้นนับจากนี้เป็นต้นไป ส่วนนางเอกก็มีเป้าหมายก็คือเป็นนักข่าวคนแรกที่เป็นโรค Pinoccio ซึ่งก็ย้อนแย้งแหละครับ เพราะนักข่าวปัจจุบันไม่ได้เสนอแค่ความจริงเท่านั้น อาจมีการใส่สีตีไข่ สร้างประเด็นข่าวเรียกเรทติ้งด้วยเทคนิคอะไรมากมาย คำสบประมาทว่านางเอกที่พูดได้แต่ความจริงจะไม่มีวันเป็นนักข่าวได้จึงทำให้เธออยากเอาชนะคำพูดเหล่านั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

ต่อจากนี้ก็จะเป็นเรื่องแก้แค้น สาระทางวิชาชีพนักข่าว การออกไปหาข่าว ทำข่าวต่างๆ คือเป็นหนังที่ปมเยอะ เข้มข้น และมีสาระ ดูไปก็ชอบไอเดียของผู้กำกับที่นำเสนอนะ ทำได้ดี มีปมขัดแย้งระหว่างตัวละครกับตัวละคร ตัวละครกับเหตุการณ์ต่างๆ น่าสนใจมาก แต่ถ้าให้คะแนน ผมน่าจะให้แค่ 7/10 นะ ขอหักช่วงท้ายๆ นิดหน่อย ผมว่าเยิ่นเย้อเกินไป ดูแล้วเบื่อๆ ซักประมาณ 3-4 ตอนท้าย ผมเข็นเต็มกำลังเลยนะ อยากดูให้จบ แต่พอจบแล้วก็โอเค ฟินพอสมควร แต่ให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวจะหาว่าอวยเกินไป รวมๆ คือนักแสดงตีบทแตกดี บทดีแต่ไม่กระชับ ทำให้คนดูเบื่อง่าย ยิ่งใครไม่ชอบแนวนี้อาจจะไม่ทนดูเลยก็ได้ อย่างไรก็ตาม ซีรี่ย์เรื่องนี้ดีครับ ดูเถอะถ้ามีเวลา สอนอะไรผมหลายอย่างเลย บางอย่างถ้าเราไม่มีมูลก็อย่าไปพูดถึงมันดีกว่า เพราะเวลามันมีผลกระทบ มันกระทบเป็นวงกว้าง มันสามารถสร้าง Impacts ให้ทั้งชีวิตคนๆ หนึ่งเลยก็ได้ นี่แหละครับสิ่งที่ผมเรียนรู้จากการดูซีรี่ย์เรื่องนี้ เรื่องหน้าจะเป็นเรื่องอะไร ไว้รอติดตามกันได้อีกนะครับที่นี่