The Theory of Everything (2014): วิทยาศาสตร์ กับความรัก

สวัสดีปีใหม่ 2020 ครับ หายกันไปนานเลย แต่ผมก็หวังว่าจะมีหลายๆท่านตามไปดูหนังตามที่ผมได้รีวิวไปบ้างแล้วนะครับ สนุกไม่สนุกมารีวิวแชร์กันได้นะครับ

 

 

เปิดศักราชใหม่ด้วยหนังดีๆอีกเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำมากๆ The Theory of Everything เป็นหนังแนวอัตชีวประวัติที่สร้างอิงจากเรื่องจริงของ Stephen Hawking นักวิทยาศาสต์ นักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงก้องโลก ผู้พิสูจน์ทฤษฎีเรื่องเวลาที่เกิดขึ้นจากหลุมดำในอวกาศซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีที่ไอน์สไตล์เคยตั้งสมมติฐานไว้ ใครอยากรู้ประวัติของสตีเว่น หาอ่านได้เลยนะครับ แหล่งข้อมูลมีเยอะมาก หนังสือของเขาก็น่าอ่านมากเช่นกัน ถูกแปลไปหลายๆภาษาทั่วโลก

 

 

กลับมาพูดถึงหนังเรื่องนี้ ผมให้ 8.5/10 ได้เลยจากสายตาคนที่ชอบดูหนังทุกแนวมาหลายปี หนังเรื่องนี้ไม่น่าเบื่อเลยครับ เชื่อไหม? ทั้งเรื่องให้อารมณ์ความรู้สึกล้านแปดได้ ตัว Stephen เองเป็นคนที่ฉลาด หัวดี มีอารมณ์ขัน เฟรนลี่มากๆ แต่คนเรามักไม่มีใครเพอร์เฟ็คไปซะทุกอย่าง Stephen เริ่มล้มป่วยลงด้วยโรคเส้นประสาทเสื่อมตั้งแต่ยังเรียนปริญญาโทในมหาวิทยาลัย และต่อสู้กับโรคนี้มาตลอดทั้งชีวิตของเขา

 

 

Stephen โชคดีที่รายล้อมไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่ดีๆ คนดีๆรอบกาย ทำให้เขามีกำลังใจที่จะต่อสู้โดยไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เขาได้รับความอบอุ่นทั้งจากพ่อแม่ ภรรยา เพื่อน และลูก ๆ ที่คอยทำให้ชีวิตของเขารู้สึกทำอะไรได้หลากหลายเหมือนคนปกติทั่วไป มีความสุขในทุกวัน

 

 

สิ่งที่คุณจะได้เห็นจากหนังเรื่องนี้ไม่ได้เจาะจงให้ความรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ และดาราศาสตร์เพียงเท่านั้น แต่หนังยังทำให้เห็นถึงความรักที่ลึกซึ้งที่เกิดขึ้นจริง ชีวิตจริงๆ ที่คนดูเชื่อถือได้ว่าความรักจริงๆเป็นแบบนี้เอง? และความรักแบบนี้มีอยู่จริง… ความรักที่ไร้เงื่อนไขใดๆ ของนางเอก Jane ผู้ที่รับบทเป็นภรรยาของ Stephen เธอผู้ไม่เคยย่อท้อต่อการดูแลเขา และยังคงต่อสู้ทั้งเลี้ยงลูก ทำงาน และปรนนิบัติสามีไปพร้อมๆกัน

 

 

อีกด้านของความรักที่ทำให้คุณมีกำลังใจในการต่อสู้และทำตามความฝันให้ได้ก็คือ Stephen ยังคงใช้เวลาทั้งหมดของชีวิตเขาหลังจากที่ป่วย เขายังคงอุทิศให้กับงานวิจัย การเขียนหนังสือ และเป็นวิทยากรผู้บรรยายให้ความรู้แก่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจนเขากลายเป็นผู้มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก

 

 

ไม่อยากสปอยล์มากไปกว่านี้ เอาเป็นว่า Stephen เป็นคนที่โชคดีมากๆ คนหนึ่ง และโชคร้ายที่สุดคนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับความฉลาดปราดเปรื่อง แต่ต้องเผชิญกับโรคร้ายที่ทำให้ชีวิตของเขาเกือบหักเห เราทุกคนก็เช่นกันครับ ไม่มีใครมีพร้อม สิ่งที่เราสร้างได้ด้วยตัวเองคือการให้คุณค่ากับชีวิตในทุกๆวัน และให้เวลาได้ทำหน้าที่ของมันเอง ทำวันนี้ให้ดีที่สุดครับ

 

 

จะบอกว่าเป็นทั้งหนังรัก หนังชีวิต หนังปรัชญาก็ไม่เกินไปครับ ครบทุกแนวทุกรสจริงๆ มันดีมากๆ คุณอาจจะต้องเสียน้ำตาให้กับหนังเรื่องนี้โดยไม่รู้ตัว อยากให้คุณได้ดูจริงๆ แล้วคุณจะพบคุณค่าของชีวิตและความรักที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานะคนรักตลอดกาล แต่มันจะคงอยู่ตลอดไป…